ก่อนมีสัตว์เลี้ยงในบ้าน ดู 6 สิ่งที่ต้องเตรียมเพื่อดูแลน้องให้ดีที่สุด

ก่อนมีสัตว์เลี้ยงในบ้าน สัตว์เลี้ยงในบ้านของแต่ละครอบครัวก็เหมือนกับสมาชิกคนหนึ่งที่คุณจะต้องใส่ใจ เพราะใช่ว่าแค่มีพื้นที่บ้านหรือคอนโดแล้วก็เลี้ยงได้ แต่เจ้าสัตว์เลี้ยงในบ้านเหล่านี้ก็ต้องการพื้นที่เติบโตที่เหมาะสมและรองรับกับธรรมชาติของมันเช่นเดียวกัน

วันนี้เราจึงรวบรวม 6 สิ่งที่ต้องเตรียมสำหรับการดูแลสัตว์เลี้ยงในบ้านมาฝากกัน เพื่อที่จะเป็นแนวทางเตรียมบ้านในฝันให้คนและสัตว์อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข

อยากจะมีสัตว์เลี้ยงในบ้านต้องเตรียมตัวอย่างไร

ถ้าคุณต้องการที่จะมีสัตว์เลี้ยงในบ้าน สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่คุณจะต้องคำนึงถึงสำหรับการเตรียมบ้านหรือคอนโดเพื่อต้อนรับสมาชิกตัวใหม่ในครอบครัว ซึ่งแน่นอนว่านอกจากจะต้องเตรียมสถานที่แล้ว ก็ยังมีอีกหลายสิ่งที่คุณอาจจะต้องเตรียมพร้อมไว้ด้วย เช่น

1. เตรียมใจ

เตรียมใจแล้วหรือยังที่จะมีสัตว์เลี้ยงในบ้าน เพราะสัตว์เลี้ยงในบ้านของคุณแต่ละตัวคงจะไม่ได้อยู่กับคุณแค่ 2-3 วัน แต่อาจจะอยู่ได้นานถึง 15-20 ปีตามอายุขัย ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงสุนัขในบ้าน การเลี้ยงแมวในคอนโด หรือสัตว์เลี้ยงในบ้านชนิดอื่น ๆ เช่น นก หนู กระต่าย

ชนิดของสัตว์เลี้ยงอายุเฉลี่ย
สุนัข6-20 ปี
แมว15-20 ปี
เม่นแคระ4-8 ปี
นกแก้วสายพันธุ์เล็ก5-10 ปี
กระต่าย7-12 ปี

สัตว์เลี้ยงในบ้านเหล่านี้ต่างก็ต้องการการใส่ใจดูแลจากคุณไปตลอดอายุขัยของมัน และบ้านของคุณก็จะต้องปรับให้เข้ากับวิถีชีวิตของสัตว์เลี้ยงในบ้านของคุณด้วย ดังนั้นคุณควรแน่ใจว่าได้เตรียมใจและเต็มใจที่แบ่งพื้นที่และรับผิดชอบชีวิตของสัตว์เลี้ยงในบ้านของคุณแล้วจริง ๆ

2. เตรียมพื้นที่ของบ้าน

คุณมีพื้นที่ให้สัตว์เลี้ยงในบ้านคุณอย่างเพียงพอหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่น แมวของบางบ้านอาจจะเลี้ยงแบบปล่อย มีพื้นที่ให้วิ่งเล่นทั้งนอกและในบ้าน แต่บางบ้านอาจจะต้องขังไว้ตลอดทั้งวัน ก็จะต้องดูว่าพื้นที่ของคุณนั้นเหมาะสมกับธรรมชาติของสัตว์เลี้ยงในบ้านของคุณมากขนาดไหน

ที่สำคัญคือ บ้านหรือคอนโดที่คุณอยู่ ไม่จะเป็นบ้านหรือคอนโดที่คุณซื้อ หรือเป็นบ้านเช่า ห้องเช่า หรือคอนโดเช่า คุณจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าพื้นที่เหล่านั้นอนุญาตให้มีสัตว์เลี้ยงในบ้านได้จริง ๆ

หากฝ่าฝืนหรือแอบเลี้ยงสัตว์จะเกิดอะไรขึ้น

บ้านหรือคอนโดบางแห่งไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ หากเป็นโครงการที่มีนิติบุคคลดูแล แน่นอนว่าคุณจะต้องถูกนิติบุคคลตักเตือน หรือปรับตามกฎระเบียบข้อบังคับของแต่ละโครงการ

หากเกิดความเสียหายในทรัพย์ส่วนกลางหรือพื้นที่ส่วนกลาง ทางนิติบุคคลยังสามารถดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้อีกด้วย

นอกจากโดนปรับทางแพ่งแล้ว การเลี้ยงสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาตยังมีโอกาสโดนดำเนินคดีทางอาญาด้วยเช่นกัน หากน้องหมาหรือน้องแมวของคุณไปกัดคนอื่น สามารถถูกแจ้งความเอาผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 377 และมาตรา 390

มาตรา 377 ผู้ใดควบคุมสัตว์ดุหรือสัตว์ร้าย ปล่อยปละละเลยให้สัตว์นั้นอยู่ลำพัง ในประการที่อาจทำอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 390 ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ โทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ปฏิบัติตามกฎระเบียงของแต่ละโครงการ

ในปัจจุบันมีหลายโครงการโดยเฉพาะคอนโด ที่เปิดโอกาสให้เลี้ยงสัตว์ได้ แต่ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบ เช่น

– ต้องขออนุญาตฝ่ายบริหารอาคารหรือนิติบุคคล

– ต้องลงทะเบียนประวัติสัตว์เลี้ยง

– ห้ามเลี้ยงสัตว์มีพิษ หรือสัตว์เลื้อยคลาน

– ห้ามเลี้ยงสัตว์ที่มีน้ำหนักเกิดกว่ากำหนด เช่น มีน้ำหนักไม่เกิน 15 กิโลกรัมเมื่อโตเต็มที่

– ห้ามเลี้ยงเกินจำนวนที่กำหนด เช่น พื้นที่น้อยกว่า 50 ตารางเมตร เลี้ยงได้เพียง 1 ตัว

– สัตว์เลี้ยงต้องมีสายผูกหรือสายจูง และต้องมีผู้ดูแลตลอดเวลาที่อยู่บริเวณพื้นที่ส่วนกลาง

ก่อนมีสัตว์เลี้ยงในบ้าน เตรียมความปลอดภัยของบ้าน

3. เตรียมความปลอดภัยของบ้าน

ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุดสำหรับการมีสัตว์เลี้ยงในบ้าน เพราะบ้านของคุณจะกลายเป็นพื้นที่อยู่อาศัยร่วมกันระหว่างคนและสัตว์ ที่อาจจะต้องปรับแต่งบางส่วนของบ้านให้เข้ากับธรรมชาติของสัตว์เลี้ยงในบ้านด้วย ที่สำคัญจะต้องทำให้มั่นใจว่าครอบครัวจะสามารถอยู่อาศัยร่วมกับสัตว์เลี้ยงในบ้านได้อย่างปลอดภัย

ตัวอย่างเช่น หากบ้านไหนที่เลี้ยงสุนัขพันธุ์ใหญ่ คุณอาจจะต้องเตรียมพื้นที่สำหรับให้วิ่งเล่น และติดตั้งรั้วบ้านให้ปลอดภัยเพื่อให้มั่นใจว่าสุนัขของคุณจะไม่หลุดออกไปที่อื่น

หากมีทารกในบ้าน 2 ชั้น ก็อาจจะต้องติดตั้งตัวกั้นบันไดที่จะกันไม่ให้เด็กลงไปด้านล่าง หรือกันสุนัขในบ้านไม่ให้ขึ้นมาส่วนที่ทารกอยู่ เป็นต้น

นอกจากนี้ คุณอาจจะต้องเคลื่อนย้ายสิ่งของบางอย่างที่อาจจะก่อให้เกิดอันตรายหรือเสียหายได้ง่าย เช่น ปลั๊กไฟ ปลั๊กพ่วง หรือรางปลั๊กไฟระโยงระยางที่อาจจะล่อตาล่อใจอุ้งเท้าเจ้าเหมียวให้ตะปบ หรือโซฟาหนังสุดรักที่สุนัขเห็นแล้วอยากขบเล่น

เพราะสัตว์เลี้ยงในบ้านเหล่านี้ไม่สนใจหรอกว่าของที่คุณวางไว้จะอันตรายหรือแพงแค่ไหน ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของคุณที่จะต้องเตรียมพื้นที่ให้ปลอดภัยไว้ก่อนเสมอ

4. เตรียมเงินค่าดูแลและปรับปรุงบ้าน

คุณมีเวลาและเงินที่จะปรับปรุงพื้นที่ และใช้ดูแลสัตว์เลี้ยงในบ้านของคุณไปตลอดไหม สัตว์เลี้ยงในบ้านก็เป็นอีกหนึ่งชีวิตในบ้านที่ต้องการการเอาใจใส่ และต้องมีค่าใช้จ่ายในการดูแลเช่นเดียวกัน

โดยเฉพาะหากเป็นโครงการที่มีนิติบุคคล อย่างคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ ส่วนใหญ่จะมีค่าส่วนกลางที่สูงกว่าโครงการทั่วไป นอกจากนีัยังมีค่าใช้จ่ายบางส่วนที่เพิ่มขึ้นมาด้วย เช่น

– ค่าธรรมเนียมในการลงทะเบียน 3,600 บาท/ตัว/ปี โดยค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะนำมาเป็นกองทุนในการทำความสะอาดพื้นที่ส่วนกลางและลงน้ำยาฆ่าเชื้อ

– ชำระเงินประกันความเสียหาย 5,000 บาท/ตัว

รวมทั้งยังต้องเตรียมค่าใช้จ่ายยามสัตว์เลี้ยงเจ็บไข้ต้องดูแลรักษา หรือแม้แต่การฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคต่าง ๆ และสัตว์เลี้ยงในบ้านบางชนิดก็ต้องการ Grooming หรือบริการตกแต่งขนอยู่เป็นประจำ ดังนั้นอย่าลืมคำนึงถึงค่าใช้จ่ายและเวลาที่จะต้องเสียไปในจุดนี้ด้วย

ก่อนมีสัตว์เลี้ยงในบ้าน เตรียมความสะอาดของบ้าน

5. เตรียมความสะอาดของบ้าน

สิ่งที่ต้องคำนึงถึงไม่แพ้เรื่องอื่นคือ เรื่องของความสะอาด อย่าปล่อยให้พื้นที่บ้านของคุณกลายเป็นที่สะสมความสกปรกจากสิ่งปฏิกูลของสัตว์เลี้ยงในบ้าน

โดยคุณอาจแก้ปัญหาด้วยการแบ่งพื้นที่สำหรับขับถ่ายของสัตว์เลี้ยงในบ้านให้ชัดเจน ใช้เครื่องดูดฝุ่นช่วยดูดเศษขน ทำความสะอาดพื้นที่ขับถ่ายของสัตว์เลี้ยงในบ้าน เช่น กระบะทรายแมว กรงนก ให้สะอาดอยู่เสมอ รักษาความสะอาดให้สัตว์เลี้ยงในบ้านของคุณ เพื่อให้ไม่กระทบต่อสุขภาพทั้งของคนและของสัตว์

6. เตรียมคุณภาพชีวิตที่ดี

ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงในบ้านของคุณให้ดีว่าพวกมันต้องการอะไรบ้าง มีอะไรที่ต้องดูแลเป็นพิเศษหรือไม่ เพื่อที่จะได้เตรียมพื้นที่อยู่อาศัยให้สัตว์เลี้ยงในบ้านของคุณมีคุณภาพชีวิตที่ดี และเติบโตขึ้นได้อย่างมีความสุข

ตัวอย่างเช่น อย่าเลือกเลี้ยงสุนัขพันธุ์ใหญ่พลังเยอะที่ต้องการออกไปข้างนอกบ้านตลอดเวลาถ้าคุณอยู่ในคอนโดแสนคับแคบ หรืออย่าเลือกเลี้ยงกระต่ายถ้ารอบบ้านของคุณมีสิ่งกระตุ้นให้ตื่นกลัวอยู่ตลอดเวลา

นอกจากนี้ ก็จะต้องใส่ใจกับที่อยู่อาศัยของสัตว์เลี้ยงในบ้านให้เหมาะสมกับชนิดและสายพันธุ์ เช่น มีเบาะนุ่ม ๆ สำหรับให้สุนัขนอนอุ่น ๆ มีบ้านแมวพร้อมที่ฝนเล็บ มีอาหารและน้ำสะอาดเตรียมไว้ให้เสมอ

ทำสิ่งที่จะไม่ให้สัตว์เลี้ยงในบ้านของคุณต้องอยู่อย่างอดอยาก หิวโหย เหงา และไม่มีความสุข คนที่เป็นเจ้าของจะต้องใส่ใจกับคุณภาพชีวิตของสัตว์เลี้ยงในบ้านด้วย เพราะถ้าสัตว์เลี้ยงในบ้านมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีหรือที่เจ้าของอย่างคุณจะไม่มีความสุข

นี่ก็เป็นตัวอย่าง 6 เรื่องที่ต้องเตรียมสำหรับคนที่อยากจะมีสัตว์เลี้ยงในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงสุนัขในบ้าน หรือการเลี้ยงแมวในคอนโด อย่าลืมว่าสัตว์เลี้ยงก็เหมือนสมาชิกคนหนึ่งในบ้าน ที่ต่างก็มีความต้องการดูแล ความต้องการให้เอาใจใส่ มีความรู้สึกได้เหมือนกับคุณเช่นกัน

ดังนั้น ก่อนที่จะมีสัตว์เลี้ยงในบ้าน ถามตัวเองให้ดีก่อนว่าพร้อมแล้วหรือยังที่จะรักและดูแลเขาไปตลอดชีวิต เพื่อที่จะได้เตรียมตัว เตรียมใจ และเตรียมพื้นที่บ้านให้ดี ต้อนรับสมาชิกตัวใหม่ที่จะเข้ามาเติมเต็มชีวิตของคุณให้มีความสุขยิ่งขึ้น

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ